วันที่ 11 มีนาคม 2554 โลกต้องตะลึงกับเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในประเทศญี่ปุ่น จากการที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิที่ทางภาคอีสานของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง ฟุกุชิมะ เมืองที่ครอบครัวของเซกิซังอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย! ครั้งแรกที่ได้ยินข่าว สิ่งแรกที่นึกถึงคือ คุณแม่ของเซกิจะเป็นอย่างไรบ้างท่านอายุมากแล้ว จนกระทั่งเซกิส่งข่าวมาว่าท่านปลอดภัยดีรวมทั้งพี่สาวและครอบครัวของพี่สาวด้วย ค่อยโล่งอกหน่อย แต่เหมือนชะตากรรมซ้ำเติม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน 4 โรงงาน เริ่มมีปัญหาเนื่องจากระบบหล่อเย็นไม่ทำงานเนื่องจากได้รับความเสียหายจากสึนามิ โรงไฟฟ้าระเบิด มีรังสีหลุดออกมาทำให้ต้องอพยพประชาชนออกโดยเร็วแรก ๆ ก็ ในรัศมี 20 กิโลเมตร วันต่อมาก็ 30 กิโลเมตร สอบถามเซกิว่าแม่เป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า บ้านอยู่ห่างจากทะเล 50 กิโลเมตรกว่า ๆ ไม่มีปัญหา (ใจเย็นกันเหลือเกิน) หลังจากได้คำตอบนี้ 2 วัน มีประกาศให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่โรงไฟฟ้ารัศมี 80 กิโลเมตร เซกิก็ส่งข่าวว่าคุณแม่ต้องอพยพไปอยู่กับญาติ ใจฉันคิดว่า แม่ต้องลำบากอีกแล้ว อยู่ที่บ้านถึงแม้จะไม่มีน้ำใช้แต่ก็ยังมีไฟฟ้า นั่นหมายถึงแม่จะไม่ต้องลำบากกับอากาศที่หนาวเย็น อาหารและน้ำดื่มก็ปันส่วนกันไป แล้วนี่แม่ต้องย้ายที่อยู่จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ แต่คุณลูกชายส่งข่าวมาว่าแม่สบายดี ปลอดภัย ฉันก็ต้องเชื่อว่าปลอดภัย
เรามาช่วยกันอธิษฐานให้ประเทศญี่ปุ่นผ่านพ้นสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปได้ด้วยนะคะ Pray For Japan และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ที่สูญหาย และขอเป็นกำลังใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นทุกท่านด้วยค่ะ อย่าเพิ่งท้อใจนะคะ ต้องเข้มแข็งตอนนี้ชาวไทยกำลังรวบรวมความช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือส่งไปให้ท่านอยู่ค่ะ ครั้งที่ไทยพบกับปัญหาสึนามิ ท่านก็ให้ความช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ มาคราวนี้ ไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราไม่ทิ้งท่านแน่นอน เราก็จะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่เช่นเดียวกันค่ะ ตอนนี้เรามาให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นทุกคนกันด้วย MV นี้นะคะ ขอบคุณพี่บอย โกสิยพงษ์ด้วยค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=1A1W3l9UKcs&feature=player_embedded#at=22
วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
MEETING with SEIGI OZEKI & SEIGIOZEKICLUB
หัวหน้าแก้งค์ของเราปรากฏตัวเวลา 20.30 น. ซึ่งมาทีหลังฉันอีก (ฉันว่าฉันช้าแล้วนะเนี่ยเพราะว่ารถติดมั่ก ๆ ) Seigi มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ๆ ที่เป็นกันเอง แน่นอนในมือถือของฝากมาด้วย ซึ่งก็เป็นโปสเตอร์ภาพยนต์ SAMURAI AYOTHAYA แถมยังแจกลายเซ็นให้กันสด ๆ (ซึ่งปากกาที่เซ็นก็เป็นของที่ร้านค่ะ ฉันเดินไปขอยืมมาพระเอกของเรามิพกมาค่า) เซ็นเสร็จแล้วก็แจกให้พวกเราทุกคน แล้วก็ยังมีพวงกุญแจน่ารัก ๆ อีกหลายแบบให้เราได้ล้วงมือลงไปจับกันตามดวง 555
บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน เป็นกันเอง อบอุ่น นาน ๆ เพื่อน ๆ จะมาเจอกันซักทีเลยถาม - ตอบกันให้วุ่นไปหมด จน Seigi ฟังไม่ทันต้องบอกให้พูดทีละคน ซักถามประวัติกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทำงานที่ไหน อยู่ที่ไหน มีพี่น้องกี่คน (จำได้รึเปล่าล่ะนั่น) ฉันคิดว่าทุกคนคงจะมีความสุขกันอย่างมากมาย นับเป็นวันที่ดีจริง ๆ ที่เราได้มาเจอกัน รู้จักกัน ต้องขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้พวกเรามาเจอกันจริงไหมคะ ความเป็นเพื่อนกัน มิตรภาพที่มีให้กันไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา อายุ และเพศ รอยยิ้ม คำพูด และทุก ๆ สิ่งที่เรามอบให้แก่กันและกันเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และแน่นอนไม่มีอะไรจะมาตีค่า ตีราคาของคำว่า "เพื่อน" และ "มิตรภาพ" ได้เลยเพราะมันมีค่ามากมายกว่าที่พวกเราจะคิดเชียวค่ะ
ต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนที่มอบมิตรภาพดี ๆ ให้แก่กันและกัน ต้องขอบคุณ Seigi ที่ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง เสมอต้นเสมอปลายตลอด หวังว่าความทรงจำดี ๆ ในวันนี้จะเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคนที่จะดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ว่าจะมีปัญหากันมากขนาดไหน ลองย้อนกลับมานึกถึงวันนี้ เราก็จะมีกำลังใจขึ้นมาสู้ชีวิตกันอีกมากเลยค่ะ
อ้อ...รู้สึกว่าฉันล้วง (ของขวัญ) ได้เป็นเจ้าแมงมุมสีดำตัวนี้มาค่ะ น่ารักน่าหยิก ตั้งชื่อแล้วว่า Koufuku - san (โควฮุคุซัง = คุณความสุขค่ะ) เพราะฉันมีความสุขมากจริง ๆ
Arigato Gozaimasu ka Seigi. I very happy ka. MATANE ka.
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554
นายคะ...กรุณามองลูกจ้างชั่วคราวเป็นคนหน่อยได้ไหมคะ
วันนี้ขอระบายหน่อยเถอะ นายฉันเห็นลูกจ้างชั่วคราวอย่างพวกฉันไม่มีความเป็นคนเลย กินไม่เป็น ใช้เงินไม่เป็น เงินเดือนต่ำ มีบัตรเครดิตไปทำไมกัน ต้องทำงานให้ทนเหมือนควาย ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีเสียง ก้มหน้ารับคำสั่งอย่างเดียว ไม่สั่งอย่าทำ ตามอารมณ์นายไม่ทันเลยล่ะค่ะ นายขา ค่าครองชีพของพวกหนูก็เว้า ๆ แหว่ง ๆ แถมมี 2 - 3...4 อาจจะ 5 มาตรฐาน พวกหนูทำงานกันข้ามวันข้ามคืนเวลานายเร่ง แค่ให้ข้าวหนูกินมื้อนึงก็หายกัน ทำไม่ได้ก็ออกไป เก็บของเลยนะ นายขา คำพวกนี้ฟังแล้วมันบั่นทอนกำลังใจคนทำงานมากเลยนะคะ ดีกับพวกหนูซักนิดนึงได้ไหมคะ เห็นพวกหนูเป็นคนบ้าง พวกหนูก็ต้องกิน ต้องใช้เหมือนกันนะคะ การที่นายจะให้ค่าครองชีพพวกหนูก็ขอให้มันต่อเนี่องหน่อยไม่ได้เหรอคะ เงินเดือนพวกหนู 5,760 บาท ไม่มีค่าครองชีพจากรัฐบาลเนี่ย ตายอย่างเดียวเลยนะคะ หนี้เยอะค่ะ เยอะเพราะว่าต้องไปทำบัตรเครดิตมาใช้ นายไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้พวกหนูเลย ให้ค่าครองชีพหนูเดือนละ 700 บาท อยู่ 3 เดือนก่อนปิดปีงบประมาณ เงินทำงานล่วงเวลาวันละ 100 บาท เดือนนึงไม่เกิน 22 วัน ก็ตัดแล้วตัดอีก เงินออกก็ไม่ตรงกันซักเดือน บางทีก็ 3 เดือนออกที หนูจะทำยังไงกันล่ะคะ ช่วยหนูคิดมั่งได้ไหม หนูเกลียดจริง ๆ คำว่าอยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารเนี่ย เพราะดุลยพินิจของพวกท่านมีแต่หาประโยชน์เข้าตัวเองกันทั้งนั้น กว่าพวกท่านจะรู้จักคำว่าพอ พวกลูกจ้างชั่วคราวอย่างหนูก็คงจะแห้งตายก่อน แล้วจะมารอว่ากว่าพวกท่านจะคิดได้กรรมคงจะตามสนองแบบสาหัสกันละมั้ง ฉันจะรอดู....
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)