วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น

          วันที่  11  มีนาคม  2554  โลกต้องตะลึงกับเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในประเทศญี่ปุ่น จากการที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิที่ทางภาคอีสานของประเทศญี่ปุ่น  รวมทั้ง  ฟุกุชิมะ  เมืองที่ครอบครัวของเซกิซังอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย!  ครั้งแรกที่ได้ยินข่าว สิ่งแรกที่นึกถึงคือ  คุณแม่ของเซกิจะเป็นอย่างไรบ้างท่านอายุมากแล้ว จนกระทั่งเซกิส่งข่าวมาว่าท่านปลอดภัยดีรวมทั้งพี่สาวและครอบครัวของพี่สาวด้วย ค่อยโล่งอกหน่อย แต่เหมือนชะตากรรมซ้ำเติม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน  4  โรงงาน  เริ่มมีปัญหาเนื่องจากระบบหล่อเย็นไม่ทำงานเนื่องจากได้รับความเสียหายจากสึนามิ  โรงไฟฟ้าระเบิด มีรังสีหลุดออกมาทำให้ต้องอพยพประชาชนออกโดยเร็วแรก ๆ ก็ ในรัศมี 20 กิโลเมตร  วันต่อมาก็ 30 กิโลเมตร สอบถามเซกิว่าแม่เป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า บ้านอยู่ห่างจากทะเล 50 กิโลเมตรกว่า ๆ ไม่มีปัญหา (ใจเย็นกันเหลือเกิน)  หลังจากได้คำตอบนี้ 2 วัน มีประกาศให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่โรงไฟฟ้ารัศมี 80 กิโลเมตร  เซกิก็ส่งข่าวว่าคุณแม่ต้องอพยพไปอยู่กับญาติ ใจฉันคิดว่า  แม่ต้องลำบากอีกแล้ว อยู่ที่บ้านถึงแม้จะไม่มีน้ำใช้แต่ก็ยังมีไฟฟ้า  นั่นหมายถึงแม่จะไม่ต้องลำบากกับอากาศที่หนาวเย็น  อาหารและน้ำดื่มก็ปันส่วนกันไป  แล้วนี่แม่ต้องย้ายที่อยู่จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้  แต่คุณลูกชายส่งข่าวมาว่าแม่สบายดี  ปลอดภัย  ฉันก็ต้องเชื่อว่าปลอดภัย
          เรามาช่วยกันอธิษฐานให้ประเทศญี่ปุ่นผ่านพ้นสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปได้ด้วยนะคะ  Pray For Japan  และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต  รวมทั้งผู้ที่สูญหาย  และขอเป็นกำลังใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นทุกท่านด้วยค่ะ  อย่าเพิ่งท้อใจนะคะ  ต้องเข้มแข็งตอนนี้ชาวไทยกำลังรวบรวมความช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือส่งไปให้ท่านอยู่ค่ะ  ครั้งที่ไทยพบกับปัญหาสึนามิ ท่านก็ให้ความช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่  มาคราวนี้  ไม่ต้องห่วงค่ะ  พวกเราไม่ทิ้งท่านแน่นอน  เราก็จะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่เช่นเดียวกันค่ะ  ตอนนี้เรามาให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นทุกคนกันด้วย MV นี้นะคะ  ขอบคุณพี่บอย  โกสิยพงษ์ด้วยค่ะ

         http://www.youtube.com/watch?v=1A1W3l9UKcs&feature=player_embedded#at=22

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

MEETING with SEIGI OZEKI & SEIGIOZEKICLUB



          เมื่อวันที่  28  มกราคม  2554  ที่ผ่านมา  นับเป็นวันที่มีความสุขมาก ๆ อีกวันหนึ่งของฉัน  นอกจากจะได้  Meeting  with  Seigi - san  แล้ว  ยังได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อีกหลาย ๆ คน  ไม่ว่าจะเป็นพี่นิดหน่อย  พี่จุก  วิ  แล้วก็เบส  อีกทั้งยังมีกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อนแล้วด้วย

หัวหน้าแก้งค์ของเราปรากฏตัวเวลา 20.30 น. ซึ่งมาทีหลังฉันอีก (ฉันว่าฉันช้าแล้วนะเนี่ยเพราะว่ารถติดมั่ก ๆ )  Seigi มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ๆ ที่เป็นกันเอง  แน่นอนในมือถือของฝากมาด้วย ซึ่งก็เป็นโปสเตอร์ภาพยนต์  SAMURAI  AYOTHAYA  แถมยังแจกลายเซ็นให้กันสด ๆ (ซึ่งปากกาที่เซ็นก็เป็นของที่ร้านค่ะ  ฉันเดินไปขอยืมมาพระเอกของเรามิพกมาค่า)  เซ็นเสร็จแล้วก็แจกให้พวกเราทุกคน  แล้วก็ยังมีพวงกุญแจน่ารัก ๆ อีกหลายแบบให้เราได้ล้วงมือลงไปจับกันตามดวง 555 


          บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน เป็นกันเอง  อบอุ่น  นาน ๆ เพื่อน ๆ จะมาเจอกันซักทีเลยถาม - ตอบกันให้วุ่นไปหมด จน Seigi ฟังไม่ทันต้องบอกให้พูดทีละคน  ซักถามประวัติกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทำงานที่ไหน  อยู่ที่ไหน  มีพี่น้องกี่คน  (จำได้รึเปล่าล่ะนั่น)  ฉันคิดว่าทุกคนคงจะมีความสุขกันอย่างมากมาย นับเป็นวันที่ดีจริง ๆ ที่เราได้มาเจอกัน  รู้จักกัน  ต้องขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้พวกเรามาเจอกันจริงไหมคะ ความเป็นเพื่อนกัน  มิตรภาพที่มีให้กันไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ  ศาสนา  อายุ  และเพศ  รอยยิ้ม  คำพูด  และทุก ๆ สิ่งที่เรามอบให้แก่กันและกันเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ  และแน่นอนไม่มีอะไรจะมาตีค่า  ตีราคาของคำว่า  "เพื่อน"  และ  "มิตรภาพ"  ได้เลยเพราะมันมีค่ามากมายกว่าที่พวกเราจะคิดเชียวค่ะ

          ต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนที่มอบมิตรภาพดี ๆ ให้แก่กันและกัน  ต้องขอบคุณ Seigi ที่ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง เสมอต้นเสมอปลายตลอด หวังว่าความทรงจำดี ๆ ในวันนี้จะเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคนที่จะดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ว่าจะมีปัญหากันมากขนาดไหน ลองย้อนกลับมานึกถึงวันนี้ เราก็จะมีกำลังใจขึ้นมาสู้ชีวิตกันอีกมากเลยค่ะ
         



          อ้อ...รู้สึกว่าฉันล้วง (ของขวัญ) ได้เป็นเจ้าแมงมุมสีดำตัวนี้มาค่ะ  น่ารักน่าหยิก ตั้งชื่อแล้วว่า Koufuku - san (โควฮุคุซัง = คุณความสุขค่ะ)  เพราะฉันมีความสุขมากจริง ๆ








       Arigato Gozaimasu ka Seigi.  I very  happy  ka. MATANE ka.


วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

นายคะ...กรุณามองลูกจ้างชั่วคราวเป็นคนหน่อยได้ไหมคะ

          วันนี้ขอระบายหน่อยเถอะ  นายฉันเห็นลูกจ้างชั่วคราวอย่างพวกฉันไม่มีความเป็นคนเลย  กินไม่เป็น  ใช้เงินไม่เป็น  เงินเดือนต่ำ  มีบัตรเครดิตไปทำไมกัน  ต้องทำงานให้ทนเหมือนควาย  ไม่มีสิทธิ์  ไม่มีเสียง  ก้มหน้ารับคำสั่งอย่างเดียว  ไม่สั่งอย่าทำ  ตามอารมณ์นายไม่ทันเลยล่ะค่ะ  นายขา  ค่าครองชีพของพวกหนูก็เว้า ๆ แหว่ง ๆ แถมมี 2 - 3...4  อาจจะ  5  มาตรฐาน  พวกหนูทำงานกันข้ามวันข้ามคืนเวลานายเร่ง  แค่ให้ข้าวหนูกินมื้อนึงก็หายกัน  ทำไม่ได้ก็ออกไป  เก็บของเลยนะ  นายขา  คำพวกนี้ฟังแล้วมันบั่นทอนกำลังใจคนทำงานมากเลยนะคะ  ดีกับพวกหนูซักนิดนึงได้ไหมคะ  เห็นพวกหนูเป็นคนบ้าง พวกหนูก็ต้องกิน  ต้องใช้เหมือนกันนะคะ  การที่นายจะให้ค่าครองชีพพวกหนูก็ขอให้มันต่อเนี่องหน่อยไม่ได้เหรอคะ  เงินเดือนพวกหนู 5,760 บาท ไม่มีค่าครองชีพจากรัฐบาลเนี่ย  ตายอย่างเดียวเลยนะคะ  หนี้เยอะค่ะ  เยอะเพราะว่าต้องไปทำบัตรเครดิตมาใช้  นายไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้พวกหนูเลย ให้ค่าครองชีพหนูเดือนละ 700 บาท อยู่ 3 เดือนก่อนปิดปีงบประมาณ  เงินทำงานล่วงเวลาวันละ 100 บาท เดือนนึงไม่เกิน 22 วัน ก็ตัดแล้วตัดอีก เงินออกก็ไม่ตรงกันซักเดือน  บางทีก็ 3 เดือนออกที  หนูจะทำยังไงกันล่ะคะ  ช่วยหนูคิดมั่งได้ไหม  หนูเกลียดจริง ๆ คำว่าอยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารเนี่ย  เพราะดุลยพินิจของพวกท่านมีแต่หาประโยชน์เข้าตัวเองกันทั้งนั้น  กว่าพวกท่านจะรู้จักคำว่าพอ  พวกลูกจ้างชั่วคราวอย่างหนูก็คงจะแห้งตายก่อน  แล้วจะมารอว่ากว่าพวกท่านจะคิดได้กรรมคงจะตามสนองแบบสาหัสกันละมั้ง  ฉันจะรอดู....