วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้าราชการ

     ในสมัยอดีต ถ้าบ้านไหนมีบุตรหลานประกอบอาชีพรับราชการแล้วล่ะก็  เป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาและเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลนั้น ๆ เป็นอย่างยิ่ง  นั่นหมายถึงความมีอำนาจและทรัพย์สินเงินทอง  รวมทั้งข้าทาสบริวารมากมาย  ในปัจจุบันก็เช่นกัน  หลาย ๆ ครอบครัวยังสนับสนุนให้บุตรหลานรับราชการเพื่อความมั่นคง  ใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ได้รับราชการ เช่น  ใช้เงินฝากเข้าทำงานราชการ  ใช้ระบบเส้นสาย  การสอบเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า  ไม่ว่าคุณจะสอบข้อเขียนฝ่านได้ลำดับที่ดีแค่ไหน  หากคุณไม่มีเงินมากพอคุณก็ไม่สามารถเป็นข้าราชการได้  ตรงกันข้าม ถ้าคุณสอบข้อเขียนได้ลำดับที่แย่มาก ๆ แต่ถ้าคุณมีเงินคุณก็สามารถเป็นข้าราชการได้ทันที ข้าราชการในสมัยนี้หลาย ๆ คนที่ยังปฏิบัติตัวแบบเช้าชามเย็นชาม  เช่นข้าราชการคนหนึ่งที่ฉันจะยกตัวอย่างให้เพื่อน ๆ ทราบเค้ามาทำงาน 09.00 น.  10.00 น. ต้องไปซื้ออาหารเช้าทาน  11.00 น.  ต้องไปตักบาตร  ทำบุญ  เนื่องมาจากหากไม่ทำเป็นประจำแล้วไซร้ ดวงในการเสี่ยงโชคก็จะไม่ดีตามไปด้วย  จากนั้นก็ถือโอกาสพักเที่ยงซะเลย   กลับเข้ามาทำงานอีกทีตอนบ่ายสองโมง  จากนั้นบ่ายสามโมงก็เพลียมาจากการทำงานทั้งวัน  ต้องนอนพักผ่อน  พอ 16.00 น.  ก็ตื่นขึ้นมาพอดีกับเตรียมตัวกลับบ้าน  เก็บของเสร็จก็ไปเลย  อันนี้ช่วงเวลาที่โรงเรียนปิดนะคะ   ถ้าเป็นเวลาที่เปิดเรียนหรือเปิดเทอมแล้วล่ะก็ จะต้องไปนวดแผนโบราณที่โรงพยาบาลด้วยค่ะ  กลับเข้ามาอีกทีก็ตอน 17.45 น.  เพื่อที่จะเก็บของแล้วก็เตรียมเซ็นชื่อทำงานภาคธุรการ ตอน 18.30 น.  แล้วก็กลับบ้าน (เวลาที่โรงเรียนเปิดจะเลิกงานตอน 18.30 น. ค่ะ  ช่วงเวลาธุรการจะได้รับค่าล่วงเวลาคนละ 100 บาท)  เป็นไงคะ        ข้าราชการ  ฉันยอมรับว่าข้าราชการไทยทุกคนไม่ได้เป็นแบบนี้  แต่ก็มีข้าราชการจำนวนไม่น้อยที่เป็นแบบนี้ค่ะ  แล้วประเทศไทยจะเอาอะไรมาเจริญได้คะ  ก็คุณภาพของข้าราชการเป็นแบบนี้ซะส่วนมาก เด็ก ๆ จะมีคุณภาพได้อย่างไรถ้าข้าราชการครูที่ต้องสอนพวกเขาให้มีความรู้ต้องละทิ้งเด็ก ๆ เพื่อมาทำผลงานให้ตัวเองผ่านการประเมินระดับนั้น ๆ แล้วก็ได้เงินประจำตำแหน่งเพิ่มเพื่อให้พอกับการชำระหนี้สินและรายจ่ายประจำของตนเอง    ผู้บริหารโกงกินเงินหลวง  ฉ้อราษฏร์บังหลวง  ใช้อำนาจในทางที่ผิด  สังคมของเราจะต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่กันนะ...แต่ที่แน่ ๆ ฉันเริ่มไม่ศรัทธาในวงการข้าราชการเสียแล้วสิ  เพื่อน ๆ ล่ะคะ  คิดเช่นไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น